3.17.2554

เค้กสับปะรด

เค้กสับปะรด
เค้กสับปะรดเป็นเค้กที่มีสับปะรดเป็นส่วนประกอบสำคัญดังนั้น การเลือกสับปะรดจึงเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง
ถ้าต้องการใช้สับปะรดสดให้ต้มสับปะรดกับน้ำเชื่อมใสก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เค้กขมและน้ำในสับปะรดจะทำให้เค้กไม่ขึ้น และส่งผลให้ส่วนก้นเค้กเป็นไต

ส่วนผสมของเค้กสับปะรด
เนยขาว 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายป่น 1 ถ้วย
ไข่ 2 ฟอง
กลิ่นส้ม 1/2 ช้อนชา
วานิลลา 1 ช้อนชา
แป้งสาลีอเนกประสงค์ร่อน 1 ครั้ง 1 ¾ ถ้วย
ผงฟู 1 ½ ช้อนชา
เกลือ ¼ ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา
สับปะรดกระป๋องสับหยาบ ๆ 1 ถ้วย

1.คนเนยขาวพอนุ่ม ใส่น้ำตาลทีละน้อยคนจนน้ำตาลเป็นครีม ใส่ไข่ทีละฟองคนให้เข้ากัน ใส่วานิลลา
ใส่กลิ่นส้ม คนพอทั่ว
2. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือเข้าด้วยกัน ผสมเบกกิ้งโซดาลงในสับปะรดคนพอทั่วใส่แป้งลงในครีมทีละ 2-3 ช้อนโต๊ะคนพอแป้งเข้ากับครีม ใส่สับปะรดทีละน้อยคนพอทั่ว ใส่แป้งสลับกับสับปะรดจนหมด
3. ปูกระดาษไขลงในถาดกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง8 นิ้ว ทาไขมันขาวบาง ๆพอทั่ว เทขนมลงในถาด ใช้ด้ามส้อมคนไล่อากาศ อบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 40 นาที หรือจนสุก จึงเอาออกจากเตา คว่ำขนมลงบนตะแกรง เอากระดาษไขออกหงายเอาหน้าขึ้น ปล่อยให้เย็นจึงตัดเป็นเสี้ยว ๆ เสิร์ฟเค้กสับปะรดกับกาแฟ


เค้กปอนด์

เค้กปอนด์
เค้กปอนด์เป็นเค้กทีใครหลายๆคน รู้จักกันดี ในวันนี้เราจึงขอนำเสนอสูตรเค้กปอนด์ พร้อมทั้งเคล็ดลับที่ใครหลายคนก็ยังไม่รู้ค่ะ

ส่วนผสมของเค้กปอนด์
เนย ¾ ถ้วย
น้ำตาลทรายป่น ¾ ถ้วย
วานิลลา 1 ช้อนชา
ผิวมะนาว ขูดหรือผิวมะนาวหั่นฝอย ๆละเอียด 1/2 ช้อนชา
ไข่ 1 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ร่อน 1 ครั้ง 1 ¼ ถ้วย
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เกลือ ¼ ข้อนชา
น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า

วิธีทำเค้กปอนด์
1. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกันเป็นจำนวน 2 ครั้ง จากนั้นให้คนเนยกับน้ำตาลจนเป็นครีมใส่วานิลลา ผิวมะนาวคนจน เข้า กัน
2. ต่อยไข่คนให้เข้ากัน ใส่ลงในเนยคนจนเข้ากันแล้วจึงค่อย ๆใส่แป้งทีละน้อยโดยวิธีคนตะล่อมพลิกจาก
ข้างล่าง มา ข้างบน
3. ปูกระดาษไขลงในพิมพ์ 9x5x2 นิ้ว ทาไขมันบาง ๆเทขนมลงในพิมพ์ 2/3 ของพิมพ์ อบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ประมาณ 50 นาที หรือจนกว่าสุก พอสุกเอาออกจากพิมพ์วางบนตะแกรง โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง

เคล็ดลับทำขนมเค้กปอนด์
การอบขนมในเตาเดียวกัน ต้องใช้พิมพ์และใส่ขนมเท่า ๆกัน ขนมจึงจะสุกพร้อมกัน เพื่อไม่ให้ขนมไหม้ก้น ให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ 1 คู่ ปูลงบนลาดแล้วจึงวางพิมพ์ที่ใส่ขนมลงบนถาด ล้อมด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์พับ 3สูงเท่าขอบพิมพ์ ชุบน้ำพอเปียกล้อมรอบพิมพ์แล้วจึงอบ จะได้ขนมที่เปลือกไม่หนาเมื่อสุกแล้วถ้าต้องการให้ขนมหน้าเสมอกันให้ใช้พายยางปาดขนมให้เป็นแอ่งตรงกลางก่อนอบ เมื่ออบสุกขนมส่วนขอบจะไหลมาตรงกลางทำให้หน้าขนมหน้าเรียบ


3.16.2554

เค้กเนย

เค้กเนย
เค้กเนยนั้นเมื่อผสมแป้งแล้วควรจะเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีไขมันแยกตัวออกมา ถ้าผสมไข่แล้วไขมันแยกตัวให้ใส่แป้งก่อนจนแป้งเข้ากับส่วนผสมดีและไม่แยกตัวจึงใส่นม และก่อนจะทำการอบจะต้องดูว่าอุณหภูมิที่ใช้ในปัจจุบันจะใช้องศาเซนติเกรด ซึ่ง 375 องศาฟาเรนไฮต์ จะเท่ากับ 190 องศาเซนติเกรด ทั้งนี้ผู้ทำขนมจะต้องศึกษาคู่มือเตาอบให้ดีก่อนใช้

ส่วนผสมของเค้กเนย
แป้งเค้กร่อน 1 ครั้ง 2 ถ้วย
ผงฟู 3 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ไข่ฟองใหญ่ 3 ฟอง
(ถ้าไข่ฟองเล็กใช้ 4 ฟอง)
น้ำตาลทรายป่น 1 ถ้วย
เนยหรือมาร์การีน ¾ ถ้วย
นม 1/2 ถ้วย
วานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำเค้กเนย
1 คนเนยให้นุ่มแล้วใส่น้ำตาลครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ คนไปทางเดียวกันจนเป็นครีมและน้ำตาลหมด (จับดูจะเนียนมือแสดงว่าเป็นครีมดี ถ้าจับแล้วสากมือน้ำตาลกับเนยไม่เข้ากันดี ขนมจะหยาบเมื่อสุกแล้ว)
2.ใส่ไข่ลงในครีมครั้งละ 1 ฟอง คนให้เข้ากับครีมจนหมด
3. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้ง ใส่แป้งลงในครีมทีละ 2-3 ช้อนใต๊ะ คนเบาๆ เพื่อเข้ากัน โดยคน
พลิกจากข้างล่างขึ้นข้างบนพอแป้งเข้ากับครีม ใส่นม 1-2 ช้อนใต๊ะ คนแบบเดียวกันแล้วจึงใส่แป้ง ใส่และคนแบบนี้จนแป้งและนมหมด จึงใส่วานิลลา คนพอทั่ว
4. ปูพิมพ์กลมขนาดเส้นผ่าคูนย์กลาง 8 นิ้ว ด้วยกระดาษไขเฉพาะก้นพิมพ์ ทาไขมันบาง ๆให้ทัวพิมพ์ เทขนมลงในพิมพ์ใช้ด้ามส้อมคนไล่อากาศ 2-3 ครั้ง
5. อบไฟ 375 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 45 นาที หรือจนขนมสุก ซึ่งขอบขนมจะหลุดออกจากพิมพ์ เพื่อความแน่ใจให้ใช้ไม้จิ้มตรงกลาง ถ้าไม่ติดไม้เป็นใช้ใด้ จึงเอาออกจากพิมพ์ดึงกระดาษไขออก (การเอาขนมออกจากพิมพ์ ใช้ที่แซะขนมแซะโดยรอบก่อน) กลับหน้าขึ้นพอเย็นจีงตัดเป็นชิ้น เสิร์ฟ

3.07.2554

ครีมโรลวานิลลา

ครีมโรลวานิลลา
ครีมโรลวานิลลา มีลักษณะพิเศษคือจะเป็นเค้กที่ม้วนเป็นวง ซึ่งการม้วนขนมนั้นต้องม้วนทันทีที่ขนมออกจากเตา เพื่อไม่ให้แตก ม้วนพออยู่ตัวทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงเอาผ้าขาวบางที่ม้วนออกให้หลวมๆ เพราะถ้าไม่คลายผ้าออกขนมจะขึ้นเป็นเหงื่อ ทำให้หน้าขนมหลุดไม่น่ากิน เมื่อทาครีมหรือแยมแล้วม้วนให้แน่นปล่อยไว้สักครู่จึงตัด ถ้าจะให้ตัดง่ายขึ้นให้แช่เย็นสักครู่ก่อน

ส่วนผสมของครีมโรลวานิลลา
แป้งสาลีเนกประสงค์ร่อน 1 ครั้ง 1 / ถ้วย
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ไข่ 5 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เนยละลาย 3 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด 1/4 ถ้วย
วานิลลา 2 ช้อนชา

ส่วนผสมของครีม
เนย ¼ ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่งร่อน 1 ครั้ง 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
นม 1 ช้อนโต๊ะ
วานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำครีมโรลวานิลลา
1.ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน 3 ครั้ง
2. ต่อยไข่ใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล ตีให้ขึ้นฟูจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที
3. ผสมนมและวานิลลาเข้าด้วยกัน ใส่แป้งทีละน้อยสลับกับนมลงในอ่างไข่ที่ตี คนเบา โดยพลิกแป้งจากข้าง
ล่างมาข้างบนพอแป้งเข้ากับส่วนผสมจึงใส่นม คนให้นมเข้ากับแป้ง สลับกันเช่นนี้จนหมด ใส่เนยละลาย คนพอเข้ากัน
4. ปูกระดาษไขลงในถาด 11x15 นิ้ว ลึก 1 ซม. ให้กระดาษเกินขอบถาด 1 นิ้ว โดยรอบ เทขนมลงในถาด
อบไฟ 400 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 20 นาที หรือจนขนมสุกเหลืองจึงเอาออกจากเตา คว่ำถาดขนมลงบนผ้าขาวบางที่ปูบนตะแกรงดึงกระดาษไขออก ตัดขอบเเข็งออกม้วนขนมตามยาวให้แน่นแด่ม้วนเบามือ คลายผ้าที่ม้วนออกหลวม ๆคลุมขนมไว้ ปล่อยให้ขนมเย็นจึงคลี่ออกทาครีมหรือแยมแล้วจึงม้วนตามเดิม ถ้าใช้แยมใช้ 1/4 ถ้วยผสมกับน้ำอุ่น 1 ช้อนโต๊ะ ทาบาง ๆให้ทั่ว ตัดขนมเป็นชิ้นขนาด ½ - 3/4 นิ้วจะได้ประมาณ 18 อัน

3.02.2554

สาเหตุที่ทำให้เค้กผิดลักษณะ

บางครั้งเมื่อเราทำเค้กจะพบว่าเกิดปัญหาหลายๆ ประการที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งอาจจะพบได้ดังนี้

1. เค้กเปลือกแข็งเกิดจากใช้ความร้อนสูงเกินไป ส่วนผสมมีน้ำตาลมาก ไป
2. เค้กไม่ขึ้น เกิดจากผงฟูน้อยหรือสิ่งที่ช่วยให้ขึ้นน้อยไป ผงฟูเก่า ให้ความร้อนสูงเกินไป แป้งที่ใช้เป็นแป้งหนักน้ำมากไป สัดส่วนของเครื่องปรุงไม่ดี หรือเผลอวางเค้กที่ผสมแล้วใกล้ไฟ
3. เค้กหยาบ เกิดจากคนน้ำตาลกับเนยไม่ได้ที่ คือ ไม่เป็นครีมเนียน ส่วนผสมมีน้ำน้อย
4. เค้กหดตัวมาก เกิดจากผสมไม่ถูกวิธี แป้งเหลวไป อบนาน
5. เค้กแบนราบ เกิดจาก แป้งน้อยไป ไฟอ่อนไป
6. เค้กหน้าแตก เกิดจากผสมไม่ดี แป้งที่ผสมแห้งไป ส่วนของน้ำและเเป้งไม่ได้สัดส่วนกัน แป้งมากไป ใช้แป้งหนัก
7. เปลือกขนมหนา เกิดจากไฟอ่อน

เนี้อเค้กที่ผิดลักษณะ เมื่อตัดออกดู
1. เนื้อหยาบ เกิดจากใส่ผงฟูมากไป เกิดจากความร้อนไม่พอ ไข่น้อย ส่วนผสมไม่ได้สัดส่วน
2. ขนมแน่น เกิดจากผงฟูน้อยไป ส่วนผสมเหลวไป และขึ้นอยู่กับชนิดของแป้ง
3. รสชาติไม่ดี เกิดจากผงฟูมากไป ส่วนผสมไม่ได้สัดส่วน
4. เค้กแข็ง เกิดจากน้ำตาลน้อยไป แป้งมากไป ไขมัน (เนย มาร์การีน) น้อยไป สัดส่วนไม่ดี
5. เนึ้อน้อยฟ่าม เมี่อตัดแล้วขนมจะเหี่ยวยุบ เกิดจากผงฟูมากไป ไฟแรง น้ำตาลน้อยไป ไข่น้อยไป
6. เค้กผลไม้ผลไม้จม เกิดจากผลไม้เปียกไป มีน้ำเชื่อมติดมาก ผงฟูมากไป ส่วนผสมเหลวไป เเป้งเบาไป

ข้อควรสนใจในการทำเค้ก
1. แป้งต้องร่อนก่อนจีงตวง
2. ผงฟู แป้ง เกลือ ร่อนรวมกัน
3. การตวงต้องตวงให้พอดี ไม่พูน
4. การคนน้ำตาลและเนย ต้องให้เข้ากันเป็นครีมก่อนจะใส่ไข่ การคนไข่ก็ต้องคนให้เข้ากันดี
5. เมี่อใส่แป้งต้องใส่ทีละน้อย คนให้เข้ากันก่อนโดยวิธีตะล่อม คนพลิกจากข้างล่างมาข้างบน แล้วจึงใส่นม คนให้เข้ากันแล้วจึงใส่แป้ง
6. การทาถาดเตาอบ ให้ปูกระดาษที่ก้นภาชนะก่อน จึงทาไขมัน
7. การเทขนมลงในพิมพ์ ควรเทขนมเพียงครึ่งหนึ่งของพิมพ์ หรือ 1/3 ของพิมพ์เป็นอย่างมาก เเล้วจึงใช้ไม้คนให้ถึงก้นพิมพ์เพื่อไล่อากาศ
8. จุดเดาอบตั้งไฟให้ถึงความร้อนตามตำรับบอกจึงใส่ขนม ขนมเมื่อสุกจะมีสีน้ำตาลทอง ขนมจะหดตัวร่อนจากขอบพิมพ์ จึงเอาออกจากเตาวางบนตะแกรง ดึงเอากระดาษ ออก
9. นมที่ใช้ คือ นมสด หรือถ้าใช้นมข้นจืด (นมระเหย) ต้องเติมน้ำเท่าตัว
10. น้ำตาลใช้น้ำตาลป่น หรือน้ำตาลทรายป่น
11. น้ำตาลไอซิ่ง คือน้ำตาลผงละเอียดที่ผสมแป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน ให้แต่งหน้าเค้ก หรือโรยหน้าขนมปัง
12. ไข่ หมายถึงไข่ไก่ทั้งฟอง ไข่แดงคือไข่ที่แยกไข่ขาว ออก แล้ว
13. โกโก้ผงละเอียด เมื่อผสมแลัวเรียกว่าช็อกโกแลต
14. กลิ่นที่ใช้ กลิ่นที่นิยมมี วานิลลา ส้ม กลิ่นกล้วย กลิ่นกาแฟ กลิ่นบรั่นดี กลิ่นช็อกโกแลต กลิ่นอัลมอนด์ เป็นต้น